ID No.📌 D95D3 ชนิดของรากฐานลึก: การเลือกใช้งานที่เหมาะสมกับแผนการก่อสร้าง

[Joe524]

ฐานรากลึก (Deep Foundation) เป็นโครงสร้างสำคัญในงานวิศวกรรมที่ช่วยเสริมความมั่นคงขององค์ประกอบในพื้นที่ที่ชั้นดินด้านบนไม่แข็งแรงเพียงพอสำหรับรองรับน้ำหนักทั้งหมด โครงสร้างรองรับลึกมีหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติ จุดเด่น และความจำกัดส่วนตัว การเลือกฐานรากลึกที่เหมาะสมกับโครงการก่อสร้างก็เลยเป็นเรื่องจำเป็นที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยรวมทั้งความสามารถของส่วนประกอบ เนื้อหานี้จะพาคุณทำความรู้จักกับจำพวกของฐานรากลึก พร้อมกระบวนการเลือกใช้งานในโครงงานก่อสร้างที่แตกต่างกัน

🛒⚡🛒ฐานรากลึกเป็นอย่างไร?

โครงสร้างรองรับลึกเป็นส่วนของส่วนประกอบที่ถ่ายโอนน้ำหนักของอาคารหรือสิ่งก่อสร้างลงไปยังชั้นดินหรือชั้นหินที่มีความแข็งแรงพอเพียง โดยอยู่ลึกกว่าโครงสร้างรองรับตื้น (Shallow Foundation) ฐานรากลึกเหมาะสำหรับโครงงานที่ต้องการรองรับน้ำหนักมากมาย หรือในพื้นที่ที่ชั้นดินข้างบนอ่อนตัว ดังเช่นว่า ดินเลน ดินปนทรายหลวม หรือพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ

📌🎯🥇ประเภทของโครงสร้างรองรับลึก

โครงสร้างรองรับลึกสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายหมวดหมู่ ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการก่อสร้างและก็การถ่ายโอนน้ำหนัก โดยประเภทที่พบได้มากในงานวิศวกรรม ตัวอย่างเช่น:

-------------------------------------------------------------
นำเสนอบริการ Boring Test | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท Boring Test บริการ Boring Test วิเคราะห์และทดสอบตัวอย่างดิน ทดสอบเสาเข็ม (Seismic Test)

👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook: https://www.facebook.com/exesoiltest/
👉 Website:  เจาะสํารวจดิน
👉 Map: เส้นทาง
-------------------------------------------------------------

1. เสาเข็ม (Pile Foundation)
เสาเข็มเป็นโครงสร้างรองรับลึกที่ใช้กันอย่างมากมาย โดยมีลักษณะเป็นเสาที่ตอกหรือเจาะลงไปในดินเพื่อถ่ายโอนน้ำหนักของโครงสร้างลงสู่ชั้นดินที่แข็งแรง เสาเข็มแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก:

เสาเข็มตอก (Driven Piles):
จัดตั้งโดยการตอกเสาเข็มลงไปในดิน เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ปรารถนาความรวดเร็วและก็ลดทุน แต่การตอกเสาเข็มอาจจะเป็นผลให้กำเนิดแรงสั่นต่ออาคารใกล้เคียง
เสาเข็มเจาะ (Bored Piles):
ติดตั้งโดยการขุดหรือเจาะหลุมแล้วใส่คอนกรีตเสริมเหล็กลงไป เหมาะสำหรับพื้นที่ที่อยากได้ลดผลกระทบจากแรงสั่น ตัวอย่างเช่น ใกล้กับตึกที่มีส่วนประกอบอ่อนไหว

2. ฐานเข็มเจาะ (Drilled Shaft Foundation)
ฐานเข็มเจาะ หรือที่เรียกว่า Caisson เป็นโครงสร้างรองรับลึกที่จัดตั้งโดยการเจาะหลุมขนาดใหญ่ลงไปในดินหรือหิน แล้วใส่คอนกรีตลงไปเพื่อสร้างรากฐาน วิธีนี้เหมาะกับโครงงานที่จะต้องรองรับน้ำหนักมาก ตัวอย่างเช่น สะพาน หรืออาคารสูง โดยมีคุณลักษณะเด่นก็คือความแข็งแรงและความรู้ความเข้าใจในการรับน้ำหนักที่สูง

3. โครงสร้างรองรับแบบเสาเข็มรวม (Pile Group Foundation)
ในบางแผนการอาจจำต้องใช้เสาเข็มหลายต้นรวมกันเป็นกรุ๊ป เพื่อเพิ่มความแข็งแรงในการรับน้ำหนัก โดยรากฐานอย่างนี้มักใช้ในองค์ประกอบที่มีน้ำหนักกระจายตัว เป็นต้นว่า โรงงานอุตสาหกรรม หรือองค์ประกอบสะพาน

4. โครงสร้างรองรับลึกประเภทฝัง (Embedded Foundation)
รากฐานชนิดนี้ถูกฝังไว้ใต้ดินและก็เชื่อมโยงกับโครงสร้างข้างบน เหมาะกับโครงการก่อสร้างในพื้นที่ที่อยากได้ลดผลกระทบจากการเคลื่อนตัวของดิน ดังเช่นว่า ตึกที่ตั้งอยู่ภายในเขตพื้นที่ลาดชัน

5. รากฐานลึกพิเศษ (Specialized Deep Foundations)
บางครั้งบางคราวที่องค์ประกอบมีความซับซ้อน ดังเช่น ในพื้นที่แผ่นดินไหวหรือในทะเล ฐานรากลึกพิเศษ อย่างเช่น เสาเข็มแบบคอนกรีตอัดแรงหรือโครงสร้างรองรับแบบใต้ทะเล จะถูกนำมาใช้งาน

🥇🎯🎯การเลือกฐานรากลึกให้สมควร

การเลือกฐานรากลึกที่เหมาะสมกับแผนการก่อสร้างขึ้นกับหลายต้นสายปลายเหตุ ดังเช่นว่า:

1. สภาพดินในพื้นที่
การสำรวจชั้นดินในพื้นที่เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้รู้ถึงคุณสมบัติของดิน ดังเช่นว่า ความแข็งแรง ความลึกของชั้นดินแข็ง รวมทั้งระดับน้ำใต้ดิน ซึ่งจะเป็นตัวระบุชนิดฐานรากที่เหมาะสม

2. ลักษณะของโครงสร้าง
น้ำหนักและรูปแบบของโครงสร้าง ได้แก่ อาคารสูง สะพาน หรือองค์ประกอบใต้น้ำ จะส่งผลต่อการเลือกรากฐานลึก ถ้าเกิดโครงสร้างมีน้ำหนักมาก ควรต้องใช้ฐานรากซึ่งสามารถรองรับน้ำหนักได้ดิบได้ดี เช่น ฐานเข็มเจาะหรือฐานรากแบบเสาเข็มรวม

3. ความจำกัดทางด้านกายภาพ
ในพื้นที่ที่มีข้อกำหนด เช่น พื้นที่แคบ หรือใกล้กับอาคารอื่น ฐานรากแบบเสาเข็มเจาะจะสมควรกว่า เพราะเหตุว่าลดผลพวงจากแรงสะเทือน

4. สิ่งแวดล้อมและก็ปัจจัยภายนอก
สิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น การกัดเซาะของน้ำ หรือการเกิดแผ่นดินไหว เป็นต้นเหตุที่จะต้องไตร่ตรองสำหรับเพื่อการออกแบบและเลือกฐานรากลึก

📌🛒📌ข้อดีและก็ข้อกำหนดของรากฐานลึกประเภทต่างๆ

จุดเด่นของรากฐานลึก
-รองรับน้ำหนักได้มาก
-ลดปัญหาเกี่ยวกับการยุบของโครงสร้าง
-ใช้งานได้ในสภาพดินหลากหลายประเภท
-เพิ่มความมั่นคงให้กับส่วนประกอบในพื้นที่เสี่ยง

ข้อกำหนดของฐานรากลึก
-วิธีการจัดตั้งสลับซับซ้อน
-ใช้เครื่องจักรเฉพาะทาง
-ปรารถนาการสำรวจและก็ดีไซน์ที่แม่น

👉👉👉ตัวอย่างการใช้งานฐานรากลึกในโครงงานจริง

อาคารสูงในเขตเมือง:
อาคารสูงในเมืองใหญ่ต้องการรากฐานลึกเพื่อรองรับน้ำหนักรวมทั้งลดผลพวงจากแรงสั่น รากฐานแบบเสาเข็มเจาะก็เลยเป็นตัวเลือกยอดนิยม
สะพานผ่านแม่น้ำ:
สะพานปรารถนาโครงสร้างรองรับลึกที่สามารถรองรับแรงกดดันจากน้ำแล้วก็การสั่นสั่นสะเทือน ฐานเข็มเจาะขนาดใหญ่จึงถูกเลือกใช้
โครงสร้างในสมุทร:
แผนการก่อสร้างในสมุทร ตัวอย่างเช่น แท่นเจาะน้ำมัน ใช้ฐานรากแบบพิเศษที่วางแบบมาเพื่อขัดขวางแรงจากคลื่นแล้วก็กระแสน้ำ

📌👉✨ข้อสรุป

รากฐานลึก มีหลากหลายประเภทซึ่งสามารถประยุกต์งานให้เหมาะสมกับลักษณะของแผนการก่อสร้างรวมทั้งภาวะดินในพื้นที่ การเลือกฐานรากที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความมั่นคงให้กับส่วนประกอบ แต่ว่ายังช่วยลดการเสี่ยงและค่าใช้จ่ายในระยะยาว การพินิจเหตุต่างๆอย่างเช่น ภาวะดิน น้ำหนักขององค์ประกอบ รวมทั้งความจำกัดทางด้านกายภาพ ก็เลยเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับเพื่อการออกแบบโครงสร้างรองรับลึก

รากฐานลึกที่เลือกใช้อย่างเหมาะสมจะช่วยให้องค์ประกอบมีความแข็งแรง แข็งแรง รวมทั้งสามารถรองรับการใช้แรงงานในระยะยาวได้อย่างแน่ใจ ไม่ว่าจะเป็นแผนการในพื้นที่ดินอ่อน พื้นที่น้ำหลาก หรือแม้กระทั้งแผนการในทะเล โครงสร้างรองรับลึกจะยังคงเป็นหัวใจหลักของงานวิศวกรรมในทุกยุคสมัย
Tags : การทดสอบความหนาแน่นในสนาม